Riga, Latvia : แมวดำ ช็อคโกแลต และอาร์ตนูโว

หลังจากห่างหายไปหลายสัปดาห์ เนื่องจากหนีไปเที่ยวไอซ์แลนด์มา เราก็มาเดินทางจากเมืองทาลลิน มาต่อที่อีกเมืองหลวงของกลุ่มประเทศบอลติก นั่่นคือเมืองริก้า ประเทศลัตเวียนั่นเอง

เรานั่งรถบัสของ Lux express จากเมืองทาลลินมายังเมืองริก้า ใช้เวลาประมาณ 4 ชม.ครึ่ง เท่านั้นเอง

Now after Tallin, we took the Lux express coach to Riga, Latvia. It took around 4.30 hour to travel.

  

จากนั้นเราก็เดินเข้าไปเที่ยวในย่านเมืองเก่า ก็จะพบกับโบสถ์ St.Peter Church ซึ่งเป็นหนึ่งในมรดกโลกด้วย



ด้านหน้าของโบสถ์ จะมีรูปปั้นสัตว์ 4 ตัว ได้แก่ ลา หมา แมว และไก่ ที่เรียกว่า The musicians of Bremen ซึ่งเชื่อกันว่า ถ้าลูบจมูกของลาตัวล่างสุดแล้วอธิษฐานสิ่งใดก็จะสมหวัง

The musician of Bremen : touch the nose of the donkey (the lowest one) and make a wish.



บริเวณโดยรอบของโบสถ์ก็จะมีของที่ระลึกขายมากมาย

โดยของที่ระลึกที่เป็นที่นิยม ได้แก่

1. อำพัน ซึ่งภายหลังไกด์สาวชาวริก้าของเราได้บอกว่า อำพันส่วนใหญ่ของที่นี่เป็นของปลอม

2. ของที่ระลึกที่เกี่ยวข้องกับแมวดำ ไม่ว่าจะเป็น แม่เหล็กติดตู้เย็น สร้อยคอ โปสการ์ด ซึ่งไกด์ได้เล่าให้เราฟังถึงตำนานของแมวดำ ว่ามีพ่อค้าคนหนึ่ง ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าร่วมสมาคมพ่อค้า เนื่องจากเขาไม่ได้มีเชื้อสายของผู้ดีเก่า ทำให้พ่อค้าคนนี้โกรธมาก จึงได้สั่งให้สร้างรูปปั้นแมวกำลังโก่งตัวทำท่าเหมือนจะอึ โดยหันก้นแมวไปใส่อาคารทำการของสมาคมพ่อค้านั้น ทำให้สมาชิกของสมาคมไม่พอใจ เกิดเรื่องฟ้องร้องกันขึ้น ในที่สุด ศาลได้ตัดสินให้พ่อค้าคนนั้นหันหน้ารูปปั้นแมวเข้าหาอาคารที่ทำการสมาคม และให้สมาคมรับพ่อค้าคนนั้นเข้าเป็นสมาชิก แฮปปี้เอนดิ้งในที่สุด

3. ช็อคโกแลตยี่ห้อ Laima เป็นช็อคโกแลตที่ไกด์ของเราภูมิใจนำเสนอมาก เธอบอกว่าเป็นโรงงานช็อคโกแลตที่เก่าแก่ และคุณภาพดีที่สุดในโลก เนื่องจากช็อคโกแลตทุกชิ้น ทำมาจากเมล็ดโกโก้แท้ๆ ไม่ได้ใช้ผงโกโก้สังเคราะห์เลย โดยเธอได้ลงทุนไปซื้อช็อคโกแลตรสชาติดั้งเดิมยอดนิยมของริก้า ได้แก่ ช็อคโกแลตสอดไส้แยมแอปริคอต มาเลี้ยงลูกทัวร์ทุกคน แล้วก็โดนแก๊งค์หนุ่มหล่อจากสวิสเซอร์แลนด์ผู้ร่วมทัวร์ครั้งนี้แซวว่า ...ระวังน๊า พวกผมน่ะมาตรฐานด้านช็อคโกแลตสูงนะ (เพราะมาจากสวิสเซอร์แลนด์นั่นเอง อิอิ)

Most popular suveniors here are ..
1. Amber, which the local guide told us later that most of them are fake ! Don't buy it.
2. Everything with the black cat in it. Why black cat ? Because there was a legend behind it, about one merchant who was refused membership of the Riga Tradesmen's Guild, so he built copper statues of angry-looking cat with arched backs on the rooftops (about to poop, apparently)..with their tails pointed towards the house of the Great Guild across the street. Finally, the court ordered him to change the cat position and he was welcomed to the club. Happy ending !
3. "Laima" chocolate : The oldest company in the country which the local guide claimed they only use the real cocoa bean, not cocoa powder to make every piece of chocolate. She even bought us the most popular recipe which is chocolate with apricot jam inside, when one of the guys from Switzerland playfully teased her that "Beware, we have a very high standard when it comes to chocolate".


Dome square



นี่คืออาคารที่เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของเมืองริก้า ด้านซ้าย คือ Schwabe's House ซึ่งปัจจุบันเป็นศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยว ในขณะที่ด้านขวา คือ The house of Blackheads ซึ่งเดิมเคยเป็นที่พบปะสังสรรค์ของเหล่าพ่อค้าผู้ร่ำรวยในเมือง

Left : Schwabe's House, currently is a tourist information center

  

นี่ก็เป็นอีกที่ที่ต้องมาชม เป็นบ้านสามพี่น้อง Three brothers (น่าจับไปคู่กับ painted ladies ที่ซานฟรานฯเป็นอย่างยิ่ง) ความสำคัญของสามพี่น้องนี้ นอกจากจะเป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุดในเมืองริก้าแล้ว อาคารแต่ละหลัง ยังถูกสร้างขึ้นมาต่างยุคสมัย ทำให้มีการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่ต่างกันไปตามยุคที่สร้างอีกด้วย โดยอาคารด้านซ้ายสุด คือ บ้านเลขที่ 17 เป็นอาคารที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งสร้างแบบ Gothic style ในขณะที่บ้านหลังตรงกลาง คือบ้านเลขที่ 19 ถูกสร้างขึ้นมาในแบบสถาปัตยกรรมสไตล์ดัชท์ และบ้านด้านขวา คือบ้านเลขที่ 21 สร้างมาแบบสไตล์ Baroque

Three Brothers : the three oldest houses in Riga from 3 different periods of time.

Right : The House of Blackheads, the meeting place for the rich and single tradesmans in the old time.
Left : Building No 17, the oldest, Gothic style
Middle : Building No. 19, built in Dutch style
Right : Building No. 21, Baroque style



The Freedom Monument



เนื่องจากไกด์สาวของเราเป็นนักเรียนศิลปะ ดังนั้นเธอจึงพาพวกเราเดินผ่านสวนสาธารณะและย่านช็อปปิ้ง เพื่อไปชมย่านที่เป็นอาคารสไตล์ Art nouveau

  

ย่าน Art Nouveau

Our local tour guide was an art student, so she decided to show us the Art nouveau area of the city.

  

Look at the facade 

The powder tower



ระหว่างทางที่เดินเล่น ก็ได้เจอกับเจ้าผับเคลื่อนที่นี้สองรอบ ซึ่งเป็นรถขายเบียร์และเครื่องดื่ม โดยจะมีพนักงานผู้หญิง 1 คน ยืนตรงกลาง คอยเตรียมเครื่องดื่มและอาหารให้ลูกค้า มีพนักงานผู้ชายถือพวงมาลัย 1 คน ส่วนลูกค้าทุกคน มีหน้าที่ถีบรถไปเรื่อยๆ ก็ถือว่าเป็นการ hangout ที่สนุกมากที่เดียว ทั้งออกกำลังกาย ชมเมือง และดื่มเบียร์สังสรรค์กับเพื่อนไปพร้อมๆกัน 

Fun way to hang out with friends, drink beer, sightseeing and exercise at the same time !! Love it !
It's the moving ...pub ? With one woman making the drinks for everyone and one guy behind the steering wheel. All the customers have to do the cycling and the car is moving around the town.
We saw them 2 times in 1 evening. Looked more drunk and sang louder the second time we saw them



ลัตเวียเป็นเมืองที่ค่อนข้างใหญ่ขึ้นมากว่าทาลลิน แต่ก็ยังคงน่ารัก และมีประวัติศาสตร์และศิลปะที่น่าสนใจ 
เราค้างคืนที่ริก้า 1 คืน ก่อนที่จะเดินทางด้วยรถบัสไปเมืองต่อไป คือ Vilnius ของประเทศ Lithuania 

Eventhough I prefer Tallin more than Riga, but it's still a lovely city with history and beautiful architecture (and chocolate !!). We stayed 1 night here before catching the bus to Vilnius, Lithuania. So...stay tune !


Travel tips :

1. จองตั๋วรถบัสได้ที่ http://www.luxexpress.eu/en


ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม