เตรียมเสื้อผ้าไปไอซ์แลนด์หน้าหนาวอย่างไรดี

ไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่อากาศเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา อยู่ดีๆฝนก็ตกลงมา แล้วอีก 5 นาทีถัดไปก็มีหิมะตก แล้วก็แดดออก เรียกได้ว่ามีครบทุกฤดูภายในวันเดียว และข้อสำคัญคือ ลมแรงมากกกกกกกก...
คนไอซ์แลนด์จะไม่กางร่มกันเลย เพราะลมแรงจนร่มพัง ยิ่งถ้าเราวางแผนที่จะไปเที่ยวนอกเมือง ตามสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ และข้อสำคัญคือ ice cave หรือ glacier hiking การเตรียมเสื้อผ้าที่พร้อมลุยได้ทุกสถานการณ์เป็นสิ่งสำคัญมากในการไปเที่ยวให้สนุกและปลอดภัย

รูปประกอบจาก http://behindthebasics.blogspot.com/2014/12/10-things-i-learnt-about-iceland.html

เราจะเริ่มจากบนลงล่างกันเลยละกันค่ะ

1. หมวก : ควรเป็นหมวกไหมพรม ที่บุ wool ข้างใน และสามารถดึงลงมาปิดหูได้เพื่อกันหนาว และถ้าหากเราวางแผนจะไป Hiking หรือเที่ยว Ice cave ควรเลือกหมวกที่มีดีไซน์เรียบๆ ไม่ควรมีสิ่งตกแต่งมาก
เราจะได้ใส่ Helmet ทับหมวกไปได้เลย (ทั้งช่วยกันหนาวได้ และบางครั้ง helmet ก็มีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์นัก) และถ้าอยากจะดูกลมกลืนไปกับชาวไอซ์แลนด์ ก็ควรเลือกหมวกที่มีสีสันแนวเอิร์ธโทน ไม่ฉูดฉาดมาก หรือใครจะซื้อเป็นหมวกที่คลุมได้ตั้งแต่ศีรษะจนถึงคอได้เลยยิ่งดี (แต่ก็มักมีราคาแพง และอาจจะดู "เยอะ" ไป สำหรับวันที่ต้องการเดินเที่ยวสบายๆในเมืองหลวง)

  

2. ผ้าพันคอ : ควรเป็นผ้าพันคอผืนใหญ่ๆ ที่ทอค่อนข้างแน่นและมีความหนาพอสมควร ถ้าเป็นแบบวงกลมที่สามารถสวมลงไปแล้วตั้งขึ้นมาปิดถึงจมูกได้ยิ่งดี

  

3. เสื้อ จากประสบการณ์ที่ไปมา คิดว่าเสื้อผ้าประมาณ 4 ชั้นก็น่าจะเพียงพอ สำหรับคนขี้หนาว (เปิดแอร์ 26 องศายังหนาว) เริ่มด้วย
ชั้นที่ 1. คือลองจอนแขนยาว
ชั้นที่ 2. คือเสื้อ heat tech คอเต่า (ของ Uniqlo ก็ได้ค่ะ)
ชั้นที่ 3. เสื้อ pullover หรือ sweater สักตัว ถ้ามี hood ก็ดี
ชั้นที่ 4. ชั้นนี้สำคัญสุด เพราะจะเป็นชั้นที่ต้องต่อสู้กับทุกสถานการณ์ได้ เพราะฉะนั้นหลักการสำคัญคือ ต้องกันลม กันฝน และควรมี hood ดังนั้น ในความคิดของเรา ตัวเลือกที่เหมาะที่สุดมี 2 อย่าง คือ
              4.1. rain gear

  

              4.2 เสื้อโค้ทที่เป็นผ้ากันลมและกันฝนได้ และมี hood

    


4. กางเกง : สำหรับคนขี้หนาวแบบเรา ที่ไปไอซ์แลนด์ในช่วงเดือนมกราคม ใส่ 3 ชั้นก็พอค่ะ
4.1 tight หรือถุงน่องหนาๆ
4.2 ลองจอนขายาว

4.3 กางเกง ชั้นนอกสุดซึ่งก็เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดเช่นกัน หลักการเช่นเดิมคือ ต้องกันฝน 
ห้ามใส่ยีนส์เด็ดขาด เพราะถ้าฝนตกขึ้นมา จะทรมานมาก ให้ใส่เป็น  Hiking pants หรือ winter pants ซึ่งมีลักษณะคือ วัสดุด้านนอก จะกันน้ำได้ และจะมีชั้นที่บุค่อนข้างหนา เพื่อความอบอุ่น บางตัวอาจมีหูรูดที่ปลายขาด้วย
แต่สำหรับวันที่เดินเที่ยวเล่นในเมือง Reykjavik จะใส่ยีนส์ก็ไม่ผิดแต่อย่างใด เพราะเราสามารถวิ่งไปหลบฝนในร้านอาหารได้ทุกเมื่อ แต่ถ้าไป Hiking แล้ว ควรเตรียมตัวให้พร้อมค่ะ

 
5. ถุงเท้า ควรเป็นถุงเท้าที่ค่อนข้างหนา เพื่อความอบอุ่น 
6. รองเท้า เวลาไป glacier hiking หรือเข้าไปเที่ยว Ice cave ควรใส่เป็น Hiking boots ที่หุ้มถึงข้อเท้า กันน้ำได้ และมีดอกที่พื้นรองเท้าที่ค่อนข้างลึก เพื่อกันลื่น ซึ่งรองเท้าแบบนี้ส่วนใหญ่จะมีราคาแพง และหาซื้อยากที่เมืองไทย หากคิดว่าชีวิตนี้คงไม่ได้ไป Hiking บ่อยๆ และตั้งใจจะไปซื้อ Local tour ที่ไอซ์แลนด์อยู่แล้ว ส่วนใหญ่บริษัททัวร์ที่นั่นจะมี Hiking boots คุณภาพดีให้เช่า ในราคาไม่แพงนัก (ประมาณ 300 บาท/3 วัน) ก็เป็นทางเลือกที่ดี (บริษัททัวร์จะเตรียม spike ให้สวมทับรองเท้าอีกทีก่อน Hiking ค่ะ)


สำหรับวันที่เดินเที่ยวในเมือง จะใส่เป็นรองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าบูทธรรมดาที่กันน้ำได้ ก็เพียงพอค่ะ
7. ถุงมือ ควรเป็นถุงมือที่ทำจากวัสดุกันน้ำและกันลมด้านนอก และบุ wool ด้านใน ถ้ามีจั้มพ์ตรงข้อมือเพื่อกันลมเข้ายิ่งดี และควรเป็นแบบที่แยกนิ้วมือ (ไม่ใช่ mitten) เพื่อจะได้หยิบจับสิ่งของได้สะดวกมากขึ้น
  
หาซื้อที่ไหนดี หากใครพอมีเวลา 1-2 วันก่อนที่จะออกไปเที่ยวนอก Reykjavik คุณสามารถไปหาซื้อเสื้อผ้าที่นั่นได้ เพราะจะมีให้เลือกมากกว่า ราคาถูกกว่า และคุณภาพดีกว่าที่ไทย
1. หากต้องการประหยัดมากๆ ให้แวะไปดูที่ร้านกาชาด อยู่ในถนนบริเวณ downtown ของ Reykjavik ระหว่างร้าน Mai Thai supermarket และ The Icelandic phallological museum ซึ่งจะขายเสื้อผ้ามือสอง ราคาถูก มีทั้งของเด็กและผู้ใหญ่ (ผู้หญิงไทยไซส์มินิ สามารถซื้อของเด็กได้สบายๆค่ะ อิอิ) เราซื้อกางเกง winter pants จากที่นั่นมาได้ในราคาเพียง 1500 โครน (ประมาณ 300 กว่าบาท) และ rain gear ไซส์เด็กมาได้ในราคา 800 โครน ( 200 บาท) ถูกมากกกกก....
2. หากที่ร้านกาชาดยังไม่มีที่ถูกใจ ไม่มีไซส์ หรือต้องการซื้อของมือหนึ่ง ก็ให้แวะไปที่ห้าง Hackaup ในเมือง จะมีโซนขายเสื้อผ้าอยู่ที่ชั้น 2 ราคาไม่สมเหตุสมผล และอาจจะมีลดราคาค่อนข้างเยอะในช่วงหน้าหนาว
3. Flea market ในเมือง Reykjavik วันเสาร์-อาทิตย์ มีเสื้อผ้าหน้าหนาวขายค่อนข้างเยอะ แต่เท่าที่เดินดู ก็มีทั้งราคาถูกและแพงปะปนกันไป
4. หากมีงบประมาณมาก ก็อาจจะลองเสื้อผ้ากันหนาวแบรนด์ของไอซ์แลนด์เอง คือ 66 North ได้ แต่ราคาค่อนข้างสูงเลยทีเดียว


ขอบคุณภาพประกอบจาก google

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม